สภาพเศรษฐกิจ

 

ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นอาชีพหลัก โดยการปลูกพืช ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ข้าวไร่และข้าวนา โดยอาศัยน้ำฝน ทั้งนี้การทำการเกษตรส่วนใหญ่ใช้พื้นที่เดิมในการปลูกพืชทำให้เกิดปัญหาสภาพดินเสื่อมโทรมเนื่องจากการชะล้างพังทลายของหน้าดิน และการใช้สารเคมีในปริมาณมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเกษตรกรมีปัญหารายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและมีหนี้สิน เกิดปัญหาด้านสุขภาพจากการสะสมของสารเคมีในร่างกาย สำหรับทางเลือกในการปลูกพืชอื่นๆ มีการปลูกไม้ผลยืนต้น ได้แก่เงาะ ทุเรียน ลองกอง มะม่วงหิมมะพานต์ที่เป็นพืชเดิมของพื้นที่ ส่วนการเลี้ยงสัตว์ เกษตรกรมีการเลี้ยงไก่ และสุกร เพื่อบริโภคในครัวเรือน ทั้งนี้จากข้อมูล จปฐ. ปีพ.ศ. 2560 ประชาชนมีรายได้เฉลี่ย 261,225.2 บาท ต่อครัวเรือนต่อปี (กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย.(2560).ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน จปฐ./ปี2560.สืบค้นจาก http://ebmn.cdd.go.th/#/jpt/report)

ปัจจุบันโครงการพัฒนาแบบพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงน้ำเคิม ได้ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรโดยการส่งเสริมอาชีพทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำหน่ายผ่านตลาดโครงการหลวง ตลาดไท-สี่มุมเมืองและตลาดชุมชน เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร ดังนี้

(1) ส่งเสริมการปลูกพืชผักในและนอกโรงเรือนที่ใช้พื้นที่น้อยแต่ให้ผลตอบแทนสูง ได้แก่ การปลูกพริกหวาน มะเขือเทศเชอรี่ แตงกวาญี่ปุ่น

(2) ส่งเสริมการปลูกไม้ผลที่มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ได้แก่ อาโวกาโด้ เงาะ ลองกอง ทุเรียน ทดแทนการปลูกพืชไร่

(3) ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์, ประมง ได้แก่ สุกร ไก่ ปลา เพื่อสร้างรายได้เสริมและเพื่อบริโภค

(4) ส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร ได้แก่ งานจักสาน ไม้กวาดดอกหญ้า

 

หมู่บ้าน

ตำบล

รายได้ต่อครัวเรือน

1. น้ำเคิม

ปิงหลวง

258,354.34

2. น้ำแพะ

ปิงหลวง

197,746.81

3. ต้นต้อง

ปิงหลวง

363,458.33

4. น้ำลีใต้

ปิงหลวง

320,859.59

5. ปิงหลวง

ปิงหลวง

238,840.76

6. น้ำทา

ปิงหลวง

162,975.00

7. ปิงใน

ปิงหลวง

286,341.82

รวม  7  หมู่บ้าน

 

261,225.2357

(กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย.(2560).ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน จปฐ./ปี2560.สืบค้นจาก http://ebmn.cdd.go.th/#/jpt/report)