โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ป่าแป๋

ความเป็นมาของโครงการ

สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้เข้ามาดำเนินงานในพื้นที่สืบเนื่องจากผู้นำชุมชน ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือถึงประธานมูลนิธิโครงการหลวง ตามหนังสือที่ พิเศษ/2547 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 เรื่องขอให้ก่อโครงการหลวงในพื้นที่ตำบลป่าแป๋ เนื่องจากอาชีพการปลูกและเก็บใบเมี่ยงได้ผลตอบแทนที่ไม่เพียงพอต่อค่ารองชีพที่สูงขึ้นในสภาพปัจจุบันและชุมชนขาดความรู้ที่เหมาะสมด้านการประกอบอาชีพ มีหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพและการศึกษาของบุตร โดยขอให้โครงการหลวงเข้าไปช่วยเหลือด้านการส่งเสริมอาชีพเกษตรและการจัดการตลาด เพื่อยกความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น 
ปี 2550 หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน)เริ่มดำเนินการ มาถึงปัจจุบัน
ปีที่เริมดำเนินงาน : พ.ศ. 2552

 

สถานที่ตั้งโครงการ

พื้นที่ตำบลป่าแป๋ อยู่ห่างจากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ระยะทาง 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 45 นาที อยู่ห่างจากอำเภอแม่แตง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที และอยู่ห่างจากสถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอดระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที โดยเส้นทางคมนาคมเป็นถนนลาดยางทั้งหมด ความสูงของพื้นที่ระหว่าง 700 – 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประชากร 3 เผ่า คือ ไทยพื้นราบ กระเหรี่ยง และลีซู ประชากร จำนวน 2,357 ครัวเรือน จำนวน 6,141 คน มีพื้นที่ที่รับผิดชอบ 1 ตำบล 13 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านป่ายางหนาด หมู่ที่ 2 บ้านปางมะกล้วย หมู่ที่ 3 บ้านผาเด็ง หมู่ที่ 4 บ้านป่าแป๋ หมู่ที่ 5 บ้านแม่เลา หมู่ที่ 6 บ้านปางลัน หมู่ที่ 7 บ้านแม่ไคร้ หมู่ที่ 8 บ้านแม่แสะ หมู่ที่ 9 บ้านแม่แมม หมู่ที่ 10 บ้านแม่น้ำแขม หมู่ที่ 11 บ้านท่าผา หมู่ที่ 12 บ้านกิ่วถ้วย-ปางมะโอ หมู่ที่ 13 บ้านขุนห้วยพระเจ้า

กลุ่มบ้านเป้าหมายในการดำเนินงาน

ลำดับ

กลุ่มบ้านหลัก

หมู่ที่

ตำบล

อำเภอ

จังหวัด

ความสูง

X

Y

1

ป่ายางหนาด

1

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

734

471021

2108393

 2

ปางมะกล้วย

2

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

803

470029

2111830

 3

ผาเด็ง

3

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

861

470583

2113884

 4

ป่าแป๋

4

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

811

469288

2116115

 5

แม่เลา

5

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

746

465758

2123688

 6

ปางลัน

6

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

746

467752

2118237

 7

แม่ไคร้

7

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

913

466747

2109826

 8

แม่แสะ

8

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

946

463886

2127902

 9

แม่แมม

9

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

877

471085

2121726

 10

แม่น้ำแขม

10

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

782

467953

2117121

 11

ท่าผา

11

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

703

474257

2114751

 12

กิ่วถ้วย-ปางมะโอ

12

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

1054

465813

2106724

 13

ขุนห้วยพระเจ้า

13

ป่าแป๋

แม่แตง

เชียงใหม่

1099

464693

2116313

รวม

13 กลุ่มบ้าน

13 หมู่บ้าน

           

สภาพพื้นที่ในโครงการ

พื้นที่ตำบลป่าแป๋ มีพื้นที่ 323 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 202,358 ไร่ มีสภาพเป็นภูเขาเป็นส่วนใหญ่ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ พื้นที่โดยทั่วไปอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 800 – 1,500 เมตร มีพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงคือสูงมากคิดเป็นร้อยละ 22 และ 32 ตามลำดับ และเป็นบริเวณที่ลาดต่ำลงมาถึงระดับค่อนข้างงานราบเรียบ ร้อยละ 30

ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่แจ่ม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย และอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ ชั้นลุ่มน้ำ ส่วนใหญ่อยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ1A คิดเป็นร้อยละ 654.46 รองลงมาเป็นพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 2 คิดเป็นร้อยละ 23.73 ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 1B คิดเป็นร้อยละ 8.44 ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 3 คิดเป็นร้อยละ 3.11 และชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 4 คิดเป็นร้อยละ 0.26 ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (โซน C) ร้อยละ 97 เป็นป่าดิบเขาและมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์

สภาพภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศ มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 28 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31 องศาเซลเซียส ในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 10 องศาเซลเซียส
ในเดือนธันวาคมและมกราคม
ฤดูฝนอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม - กันยายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,583 มิลลิเมตรต่อปี

แหล่งน้ำในพื้นที่โครงการ

แหล่งน้ำ ที่เป็นน้ำธรรมชาติประกอบด้วยลำห้วย 30 สาย ได้แก่ น้ำแม่ริม ห้วยแม่หลวง ห้วยพระเจ้าน้อย ห้วยป่าแป๋ ห้วยปี๋ ห้วยกองขาก และห้วยต้นขนุน มีบึงและหนอง 8 แห่ง น้ำพุร้อน 1 แห่ง แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ได้แก่ ฝ่ายน้ำล้นขนาดเล็กเพื่อใช้ในการเกษตร จำนวน 10 แห่ง และบ่อน้ำตื้น จำนวน 320 แห่ง

สภาพเศรษฐกิจ

สภาพเศรษฐกิจด้านการพัฒนาอาชีพและการตลาด

การดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาอาชีพของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ที่ผ่านมากได้พัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร เพื่อให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพและรายได้มากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาการต่อยอดพืชเดิม คือ ชาอัสสัม มะแขว่น กาแฟ  ด้วยการดูแลรักษาต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิม โดยการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยองค์ความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ เสริมสร้างความมั่นคงด้านการตลาดและจัดหาช่องทางการตลาดที่หลากหลายพัฒนาโรงงานแปรรูปให้สามารถรองรับผลผลิตได้ทั้ง GAP และอินทรีย์ พัฒนาให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถบริหารการจัดการได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมอาชีพแก่ผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น จักรสานของที่ระลึก...

สภาพสังคมในพื้นที่โครงการ

กลุ่มบ้านในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ ทั้ง 13 กลุ่มบ้าน มีประชากรจำนวน 2,357 ครัวเรือน จำนวน 6,141 คน ประกอบด้วย 3 เผ่า คือ พื้นเมือง กะเหรี่ยง  และลีซู โดยส่วนใหญ่คือคนพื้นเมือง ร้อยละ 60 ด้านสาธารณสุขประชาชนใช้บริการจากสถานีอนามัยบ้านปางมะกล้วย ตำบลป่าแป๋ ที่ผ่านมาโครงการพัฒนาแบบพื้นที่สูงป่าแป๋ ได้สนับสนุนการทำแผนชุมชนและการการนำไปใช้ประโยชน์ใน 13 กลุ่มบ้านคือ... 

สภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โครงการ

พื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ ทั้ง 13 กลุ่มบ้าน มีพื้นที่รวมประมาณ 245,654 ไร่ โดยอยู่ในเขตอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 24,513.53 ไร่อุทยานแห่งชาติสุเทพ - ปุย 14,354.49 ไร่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ 111,957.64 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง 74,878.13 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าสะเมิง 11,663.38 ไร่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสะเมิง 7,858.44 ไร่ พื้นที่ตำบลป่าแป๋ อยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2  58,287.42 ไร่ อยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 1A 158,351.88 ไร่  เป็นป่าดิบเขาและมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ 

โครงสร้างพื้นฐาน

ในพื้นที่ดำเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ มีหมู่บ้านที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงได้แก่ บ้านแม่จอก หมู่ที่8 ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และมีปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้องบ้างเมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง มีน้ำอุปโภคและบริโภคทุกหลังคาเรือนโดยเป็นระบบประปาภูเขา แต่ไม่เพียงพอในฤดูแล้งและไม่สะอาดเท่าที่ควร และมีปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรมาก เนื่องจากลำห้วยขนาดใหญ่และที่มีปริมาณน้ำเพียงพออยู่ต่ำกว่าระดับพื้นที่ทำการเกษตรและพื้นที่ตั้งชุมชน